-->

วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2554

งาน

อั้มงานเราจะเสร็จภายในวันจันทร์ วันอังคารวางแผนงานอีกรอบ
หน้าที่ !!

อั้ม พรีเซนต์งาน,ปริ้นท์งาน,เก็บเงิน
กรีน สตาฟ ,ควบคุมงาน
โชคชัย สตาฟ ,ควบคุมงาน
เตชิด สตาฟ ,ควบคุมงาน,พรีเซนต์
ปั๋ง สตาฟ ,ควบคุมงาน
ป๋อม สตาฟ ,ควบคุมงาน,พรีเซนต์
บีม พรีเซนต์
ยุ้ย พรีเซนต์,ทำสื่อการนำเสนอ,พิมพ์โครงงาน
แก้ว พรีเซนต์
เกต สตาฟ ,ควบคุมงาน
ท็อป ซื้อฟิวเจอร์บอร์ดและของตกแต่ง,แจกสมุด
แพร สตาฟ ,ควบคุมงาน,แจกสมุด

หน้าที่สต๊าฟ
1.นำอุปกรณ์ไปวางไว้หน้าห้องและคอยประสานงาน
2.ต้องดูแลความเรียบร้อยของงาน
3.เก็บอุปกรณ์

วันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2554


    ระบบเลขฐานสอง  คือ  ระบบตัวเลขที่มีค่าฐานเป็นสอง มีสัญญลักษณ์ 2 ตัว คือ 0 กับ 1  ค่าตามตำแหน่งของส่วนที่เป็นจำนวนเต็มของเลขฐานสอง คือ

 
 ตารางเปรียบเทียบเลขฐานสอง
เลขฐานสิบ
เเลขฐานสอง
0
00
1
01
2
10
3
11
4
100
5
101
6
110
7
111
8
1000
9
1001
ระบบเลขฐานแปด เป็นระบบตัวเลขที่มีค่าฐานเป็นแปด มีตัวเลขอยู่ 8 ตัว คือ0, 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7
ซึ่งสามารถเปรียบเทียบค่าเลขฐานได้ตามตาราง 
เลขฐานสิบ
เลขฐานสอง
เลขฐานแปด
0
000
0
1
001
1
2
010
2
3
011
3
4
100
4
5
101
5
6
110
6
7
111
7
ระบบเลขฐาน 16  มีตัวเลขอยู่ 16  ตัว  คือ
0  1  2  3  4  5  6  7  8  9  A  B  C  D  E  F
ตาราง เปรียบเทียบเลขฐานสิบหก
เลขฐานสิบ
เลขฐานสอง
เลขฐานสิบหก
0
0000
0
1
0001
1
2
0010
2
3
0011
3
4
0100
4
5
0101
5
6
0110
6
7
0111
7
8
1000
8
9
1001
9
10
1010
A
11
1011
B
12
1100
C
13
1101
D
14
1110
E
15
1111
F

.1  การบวกเลขฐานสอง เลขฐานแปด  และเลขฐานสิบหก

หลักการบาก

1.       ให้บวกตามปกติเหมือนเลขฐานสิบ  
2.       ถ้าผลบวกที่ได้มีค่าไม่เกินค่าเลขฐานนั้นๆ ให้ใส่ผลลัพธ์ได้เลย
3.       ถ้าผลบวกที่ได้มีค่าเกินค่าเลขฐานนั้นๆ ให้เปลี่ยนผลลัพธ์ที่ได้เป็นเลขฐานนั้นๆ แล้วใส่ LSB หรือ LSD เป็นผลลัพธ์ ส่วนที่เหลือจะเป็นตัวทด
4.       กรณีที่มีตัวทดให้เปลี่ยนตัวทดเป็นเลขฐานสิบแล้วจึงเริ่มทำข้อ 1 และทำไปเรื่อยๆ จนหมดทุกหลัก
ตัวอย่างที่ 3.1                (1101)2 +  (1011)=  (……..)2
วิธีทำ                      1101 +
                                1011
ตอบ                   (11000) 2
อธิบาย    1.  1+1                                  = (2) 10                = (10) 2  ใส่ 0  ทดไป 1
                2.  0+1+1(ตัวทด)                = (2) 10                = (10) 2  ใส่ 0  ทดไป 1
                3.  1+0+1(ตัวทด)                = (2) 10                = (10) 2  ใส่ 0  ทดไป 1
                4.  1+1+1(ตัวทด)                = (3) 10                = (11) 2  ใส่ 11
ตัวอย่างที่ 3.2                (4257)8 +  (5650)=  (……..)8
วิธีทำ                      4257 +
                                5650
ตอบ                   (12127) 8
อธิบาย    1.  7+0                                  = (7) 10                = (7) 8  ใส่ 7
                2.  5+5                                  = (10) 10              = (10 – 8 = 2) = (12) 8  ใส่ 2  ทดไป 1
                3.  2+6+1(ตัวทด)                = (9) 10                = (9   – 8 = 1) = (11) 8   ใส่  ทดไป 1
                4.  4+5+1(ตัวทด)                = (10) 10              = (10 – 8 = 2) = (12) 8   ใส่ 12
ตัวอย่างที่ 3.3                (A9D2)16+  (0F57)16 =  (……..)16
วิธีทำ                      A9D2 +
                                0F57
ตอบ                     (B929) 16
อธิบาย    1.  2+7                    = (9) 10                   = (9)16  ใส่ 9
                2.  13+5                  = (18) 10                = (18 – 16  = 2) = (12) 16  ใส่ 2  ทดไป 1
                3.  9+15+1(ตัวทด)= (25) 10                = (25  – 16 = 9) = (19) 16   ใส่  ทดไป 1
                4.  10+0+1(ตัวทด)= (11) 10                = (B) 16   ใส่ B
                               

3.2         การลบเลขฐานสอง  เลขฐานแปด   เลขฐานสิบหก

หลักการลบ

1.       กรณีหลักตัวตั้งเท่ากันหรือมากกว่าตัวลบให้ลบตามปกติเหมือนเลขฐานสิบ  
2.       กรณีที่ลบไม่ได้ต้องยืมจากหลังถัดไปมาเท่ากับเลขฐานนั้นๆ แล้วบวกกับตัวตั้งในหลักที่จะลบ เช่นเลขฐานสองก็ต้องยืมมา 2 เลขฐานแปดยืมมา 8 และเลขฐานสิบหกก็ยืมมา 16
3.       ผลลัพธ์ที่ได้ต้องเป็นจำนวนเลขที่ไม่เกินเลขฐานนั้นๆ
4.       หลักที่ถูกยืมมาจะต้องลดลง 1 เสมอ
ตัวอย่างที่ 3.4                (1101)2 -  (1011)=  (……..)2
วิธีทำ                      1101 -
                                1011
ตอบ                     (0010) 2
อธิบาย    1.  1 - 1                                                           (0) 2  ใส่ 0 
                2.  0 – 1  ยืมบิตถัดไปมา 2  = (0 + 2) - 1    = (1) 2  ใส่ 1 
                3.  ถูกยืมไปเหลือ 0 - 0                                  = (0)2   ใส่ 0 
                4.  1 - 1                                                           = (0) 2  ใส่ 0
ตัวอย่างที่ 3.5                (4257)8 -  (650)=  (……..)8
วิธีทำ                      4257 -
                                  650
ตอบ                     (3407) 8
อธิบาย    1.  7 - 0                                                                   = (7) 8  ใส่  7
                2.  5 - 5                                                                   = (0) 8  ใส่  0
                3.  2 – 6 ยืมหลักถัดไปมา 8    =  (2+8) - 6          = (4) 8   ใส่  4
                4.  ถูกยืมไปเหลือ 3 – 0                                          = (3) 8   ใส่ 3
ตัวอย่างที่ 3.6                (A9D2)16-  (0F57)16 =  (……..)16
วิธีทำ                      A9D2 -
                                0F57
ตอบ                     (9A7B) 16
อธิบาย    1.  2 – 7 ยืมหลักถัดไปมา 16 =(2+16) – 7  =  (11) 10                     = (B)16  ใส่ B
                2.  ถูกยืมไปเหลือ (C) 16 = 12 – 5 = (7) 10                                        = (7) 16  ใส่ 7
                3.  9 – (F) 16 = 9 – 15 ยืมหลักถัดไปเป็น (9+16) - 15 = (10) 10     = (A) 16 ใส่ A
                4. ถูกยืมไปเหลือ  9 – 0                                                                          = (9) 16   ใส่ 9

3.3         การใช้คอมพลีเมนต์แทนจำนวนลบของเลขฐานต่างๆ
            เลขจำนวนลบหรือเลขที่เป็นลบ ของเลขฐานต่างๆ โดยเฉพาะเลขฐานสองที่จะใช้ประมวลผลในเครื่องคอมพิวเตอร์จะต้อง มีวิธีแสดงค่าที่ถูกต้องซึ่งก็มีการคิดค้นระบบที่จะใช้หลายวิธี แต่ขอกล่าวถึงเพียงวิธีเดียวคือ การใช้จำนวนคอมพลีเมนต์ แทนเลข จำนวนลบ  เลขจำนวนลบหรือเลขที่มีค่าเป็นลบในที่นี้จะหมายถึงตัวลบ เมื่อนำตัวลบเปลี่ยนเป็นจำนวนคอมพลีเมนต์แล้วนำไปบวกเข้ากับตัวตั้ง ก็จะได้ผลลบที่ถูกต้องออกมา
การคอมพลีเมนต์เลขฐานสิบ มี 2 วิธี คือ  9’s complement  และ 10’s complement
การคอมพลีเมนต์เลขฐานสอง มี 2 วิธี คือ  1’s complement  และ 2’s complement
การคอมพลีเมนต์เลขฐานสิบ มี 2 วิธี คือ  7’s complement  และ 8’s complement
การคอมพลีเมนต์เลขฐานสิบ มี 2 วิธี คือ  15’s complement  และ 16’s complement
ตารางแสดงจำนวนคอมพลีเมนต์ของเลขฐานต่างๆ
เลขฐานสิบ
เลขฐานแปด
เลขฐานสิบหก
เลขฐานสอง
ฐานสิบ
9’s com
ฐานแปด
7’s com
ฐานสิบหก
15’s com
ฐานสอง
1’s com
0
9-0=    9
0
7
0
F
0
1
1
9-1=    8
1
6
1
E
1
0
2
9-2=    7
2
5
2
D
  -
  -
3
9-3=    6
3
4
3
C
  -
  -
4
9-4=    5
4
3
4
B
  -
5
9-5=    4
5
2
5
A
  -
-
6
9-6=    3
6
1
6
9
7
9-7=    2
7
0
7
8
8
9-8=    1
-
-
8
7
-
9
9-9=    0
  -
9
6
-
   
-
A
5
-
-
   
-
B
4
-
-
   
-
C
3
-
-
   
-
D
2
-
-
   
-
E
1
-
-
   
-
F
0
-
-
และ         10’s complment                  คือ    9’s complment +1
                   8’s complment                 คือ    7’s complment +1
                16’s complment                  คือ  15’s complment +1
                   2’s complment                 คือ    1’s complment +1
ตัวอย่างที่ 3.7                (1101)2 -  (1011)=  (……..)2   โดยใช้วิธีคอมพลีเมนต์ 1  และ  2
วิธีทำ                                                                                           1101 +                  
1's complement ของ (1011)2   =                               0100 
                                                ตัวทด                                        0001 +
                                                นำตัวทดมาบวก                                1             
                                                                                                     0010                               
ตอบ                     (0010) 2
วิธีทำ                                                                                          1101 +                  
2's complement ของ (1011)                =                0101     (1's complement + 1) 
ตัวทดไม่พิจารณา                                                       1 0010
ตอบ                     (0010) 2
ตัวอย่างที่ 3.8                (4257)8 -  (0650)=  (……..)8      โดยใช้วิธีคอมพลีเมนต์ 7  และ  8
วิธีทำ                                                                                            4257 +
                7's complement ของ  (0650)8                   =          7127
                                                                ตัวทด                                    3406  
                                                                นำตัวทดมาบวก                             1                    
                                                                              3407                                                                       
ตอบ                     (3407) 8
วิธีทำ                                                                                            4257 +
                8's complement ของ  (0650)8                   =          7130   (7's complement + 1)
                                                                ตัวทดไม่พิจารณา                3407  
           ตอบ                     (3407) 8 
ตัวอย่างที่ 3.9                (A9D2)16-  (0F57)16 =  (……..)16
วิธีทำ                                                                                          A9D2 +
                15's complement ของ (0F57)16                    =    F0A8
                               ตัวทด                                1 9A7A               
                                                                    นำตัวทดมาบวก                        1                    
                                                                                                     9A7B                                 
ตอบ                     (9A7B) 16
วิธีทำ                                                                                           A9D2 +
                16's complement ของ (0F57)16                     =    F0A9  (15's complement + 1)
          ตัวทดไม่พิจารณา                                 1 9A7B                
ตอบ                     (9A7B) 16

3.4         การคูณเลขฐานสอง  เลขฐานแปด   เลขฐานสิบหก

หลักการคูณ

1.       ตั้งคูณตามปกติเหมือนเลขฐานสิบ
2.       ถ้าผลคูณมีค่าไม่มากกว่าเลขฐานนั้นๆ ให้ใส่ผลลัพธ์ได้เลย
3.       กรณีผลคูณของคู่ใดมีค่ามากกว่าเลขฐานนั้นๆ ผลคูณที่ได้นั้นจะเป็นเลขฐานสิบ ให้เปลี่ยนเป็นเลขฐานนั้นๆ แล้วใส่ผลลัพธ์ และมีตัวทด
4.       กรณีมีตัวทด ให้นำผลคูณของหลักถัดไปรวมกับตัวทดผลลัพธ์ที่ได้   แล้วจึงเริ่มทำข้อ 2 และทำไปเรื่อยๆ จนครบทุกคู่
       5.     นำผลคูณของตัวคูณแต่ละหลักมารวมกัน
ตัวอย่างที่ 3.10                (1101)2 x  (101)=  (……..)2
วิธีทำ                      1101 x
                                  101
                               1101
                           0000   +
                        1101      
                       1000001 
ตอบ                 (1000001) 2
ตัวอย่างที่ 3.11                (427)8x  (45)=  (……..)8
วิธีทำ                     427 x
                                 45
                            2563  +               
                         2134      
                         24123
ตอบ                 (24123) 8
ตัวอย่างที่ 3.12                (2A9)16x  (45)16 =  (……..)16
วิธีทำ                      2A9 x
                                 45
                              D4D +
                            AA4  .
                            B78D
ตอบ                 (B78D) 16

3.5         การหารเลขฐานสอง   เลขฐานแปด   เลขฐานสิบหก

หลักการหาร

1.       ใช้หลักของการคูณเข้ามาช่วย โดยการเดาผลหารก่อนแล้วนำผลที่ได้มาคูณกับตัวหาร
2.       นำผลคูณที่ได้จากข้อ 1 มาลบกับตัวตั้ง โดยใช้หลักการลบของเลขฐานนั้นๆ        
3.       ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนครบเหมือนการหารเลขฐานสิบ
ตัวอย่างที่ 3.13                (100001) 2 /(1101)2  =  (……..)2
วิธีทำ                      1101 )1000001(101
                                            01101
                                            001101
                                                 1101
                                                 0000  
ตอบ                 (101) 2
ตัวอย่างที่ 3.11                (2134) 8 /(427)8   =  (……..)8
วิธีทำ                      427)24123(45
                                        2134 
                                          2563
                                          2563 
ตอบ                 (45) 8
ตัวอย่างที่ 3.12                (B78D) 16 /(2A9)16  =  (……..)16
วิธีทำ                      2A9)B78D(45
                                        AA4
                                          D4D
                                          D4D 
ตอบ                 (45) 16 
อธิบาย            1.   ได้ผลลัพธ์ 4 x ตัวหาร 2A9 = AA4
                                    - 4 x 9                 =  36                       =  (24) 16  ใส่ 4 ทด 2    
                                                - 4 x A                 = 40 + 2                = 42                =   (2A)16  ใส่ ทด 2
                                                - 4  x 2                = 8 + 2  = 10        =   (A) 16 ใส่ A
2.       B78 - AA4 = D4D
3 .       ได้ผลลัพธ์ 5 x ตัวหาร 2A9 = D4D