อั้มงานเราจะเสร็จภายในวันจันทร์ วันอังคารวางแผนงานอีกรอบ
หน้าที่ !!
อั้ม พรีเซนต์งาน,ปริ้นท์งาน,เก็บเงิน
กรีน สตาฟ ,ควบคุมงาน
โชคชัย สตาฟ ,ควบคุมงาน
เตชิด สตาฟ ,ควบคุมงาน,พรีเซนต์
ปั๋ง สตาฟ ,ควบคุมงาน
ป๋อม สตาฟ ,ควบคุมงาน,พรีเซนต์
บีม พรีเซนต์
ยุ้ย พรีเซนต์,ทำสื่อการนำเสนอ,พิมพ์โครงงาน
แก้ว พรีเซนต์
เกต สตาฟ ,ควบคุมงาน
ท็อป ซื้อฟิวเจอร์บอร์ดและของตกแต่ง,แจกสมุด
แพร สตาฟ ,ควบคุมงาน,แจกสมุด
หน้าที่สต๊าฟ
1.นำอุปกรณ์ไปวางไว้หน้าห้องและคอยประสานงาน
2.ต้องดูแลความเรียบร้อยของงาน
3.เก็บอุปกรณ์
puttisuperblog
วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2554
วันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2554
ระบบเลขฐานสอง คือ ระบบตัวเลขที่มีค่าฐานเป็นสอง มีสัญญลักษณ์ 2 ตัว คือ 0 กับ 1 ค่าตามตำแหน่งของส่วนที่เป็นจำนวนเต็มของเลขฐานสอง คือ | ||||||||||||||||||||||
ตารางเปรียบเทียบเลขฐานสอง | ||||||||||||||||||||||
|
ระบบเลขฐานแปด เป็นระบบตัวเลขที่มีค่าฐานเป็นแปด มีตัวเลขอยู่ 8 ตัว คือ0, 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7 ซึ่งสามารถเปรียบเทียบค่าเลขฐานได้ตามตาราง | |||||||||||||||||||||||||||
| |||||||||||||||||||||||||||
ระบบเลขฐาน 16 มีตัวเลขอยู่ 16 ตัว คือ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
หลักการบาก
1. ให้บวกตามปกติเหมือนเลขฐานสิบ
2. ถ้าผลบวกที่ได้มีค่าไม่เกินค่าเลขฐานนั้นๆ ให้ใส่ผลลัพธ์ได้เลย
3. ถ้าผลบวกที่ได้มีค่าเกินค่าเลขฐานนั้นๆ ให้เปลี่ยนผลลัพธ์ที่ได้เป็นเลขฐานนั้นๆ แล้วใส่ LSB หรือ LSD เป็นผลลัพธ์ ส่วนที่เหลือจะเป็นตัวทด
4. กรณีที่มีตัวทดให้เปลี่ยนตัวทดเป็นเลขฐานสิบแล้วจึงเริ่มทำข้อ 1 และทำไปเรื่อยๆ จนหมดทุกหลัก
ตัวอย่างที่ 3.1 (1101)2 + (1011)2 = (……..)2
วิธีทำ 1101 +
1011
ตอบ (11000) 2
อธิบาย 1. 1+1 = (2) 10 = (10) 2 ใส่ 0 ทดไป 1
2. 0+1+1(ตัวทด) = (2) 10 = (10) 2 ใส่ 0 ทดไป 1
3. 1+0+1(ตัวทด) = (2) 10 = (10) 2 ใส่ 0 ทดไป 1
4. 1+1+1(ตัวทด) = (3) 10 = (11) 2 ใส่ 11
ตัวอย่างที่ 3.2 (4257)8 + (5650)8 = (……..)8
วิธีทำ 4257 +
5650
ตอบ (12127) 8
อธิบาย 1. 7+0 = (7) 10 = (7) 8 ใส่ 7
2. 5+5 = (10) 10 = (10 – 8 = 2) = (12) 8 ใส่ 2 ทดไป 1
3. 2+6+1(ตัวทด) = (9) 10 = (9 – 8 = 1) = (11) 8 ใส่ 1 ทดไป 1
4. 4+5+1(ตัวทด) = (10) 10 = (10 – 8 = 2) = (12) 8 ใส่ 12
ตัวอย่างที่ 3.3 (A9D2)16+ (0F57)16 = (……..)16
วิธีทำ A9D2 +
0F57
ตอบ (B929) 16
อธิบาย 1. 2+7 = (9) 10 = (9)16 ใส่ 9
2. 13+5 = (18) 10 = (18 – 16 = 2) = (12) 16 ใส่ 2 ทดไป 1
3. 9+15+1(ตัวทด)= (25) 10 = (25 – 16 = 9) = (19) 16 ใส่ 9 ทดไป 1
4. 10+0+1(ตัวทด)= (11) 10 = (B) 16 ใส่ B
หลักการลบ
1. กรณีหลักตัวตั้งเท่ากันหรือมากกว่าตัวลบให้ลบตามปกติเหมือนเลขฐานสิบ
2. กรณีที่ลบไม่ได้ต้องยืมจากหลังถัดไปมาเท่ากับเลขฐานนั้นๆ แล้วบวกกับตัวตั้งในหลักที่จะลบ เช่นเลขฐานสองก็ต้องยืมมา 2 เลขฐานแปดยืมมา 8 และเลขฐานสิบหกก็ยืมมา 16
3. ผลลัพธ์ที่ได้ต้องเป็นจำนวนเลขที่ไม่เกินเลขฐานนั้นๆ
4. หลักที่ถูกยืมมาจะต้องลดลง 1 เสมอ
ตัวอย่างที่ 3.4 (1101)2 - (1011)2 = (……..)2
วิธีทำ 1101 -
1011
ตอบ (0010) 2
อธิบาย 1. 1 - 1 = (0) 2 ใส่ 0
2. 0 – 1 ยืมบิตถัดไปมา 2 = (0 + 2) - 1 = (1) 2 ใส่ 1
3. ถูกยืมไปเหลือ 0 - 0 = (0)2 ใส่ 0
4. 1 - 1 = (0) 2 ใส่ 0
ตัวอย่างที่ 3.5 (4257)8 - (650)8 = (……..)8
วิธีทำ 4257 -
650
ตอบ (3407) 8
อธิบาย 1. 7 - 0 = (7) 8 ใส่ 7
2. 5 - 5 = (0) 8 ใส่ 0
3. 2 – 6 ยืมหลักถัดไปมา 8 = (2+8) - 6 = (4) 8 ใส่ 4
4. ถูกยืมไปเหลือ 3 – 0 = (3) 8 ใส่ 3
ตัวอย่างที่ 3.6 (A9D2)16- (0F57)16 = (……..)16
วิธีทำ A9D2 -
0F57
ตอบ (9A7B) 16
อธิบาย 1. 2 – 7 ยืมหลักถัดไปมา 16 =(2+16) – 7 = (11) 10 = (B)16 ใส่ B
2. ถูกยืมไปเหลือ (C) 16 = 12 – 5 = (7) 10 = (7) 16 ใส่ 7
3. 9 – (F) 16 = 9 – 15 ยืมหลักถัดไปเป็น (9+16) - 15 = (10) 10 = (A) 16 ใส่ A
4. ถูกยืมไปเหลือ 9 – 0 = (9) 16 ใส่ 9
เลขจำนวนลบหรือเลขที่เป็นลบ ของเลขฐานต่างๆ โดยเฉพาะเลขฐานสองที่จะใช้ประมวลผลในเครื่องคอมพิวเตอร์จะต้อง มีวิธีแสดงค่าที่ถูกต้องซึ่งก็มีการคิดค้นระบบที่จะใช้หลายวิธี แต่ขอกล่าวถึงเพียงวิธีเดียวคือ การใช้จำนวนคอมพลีเมนต์ แทนเลข จำนวนลบ เลขจำนวนลบหรือเลขที่มีค่าเป็นลบในที่นี้จะหมายถึงตัวลบ เมื่อนำตัวลบเปลี่ยนเป็นจำนวนคอมพลีเมนต์แล้วนำไปบวกเข้ากับตัวตั้ง ก็จะได้ผลลบที่ถูกต้องออกมา
การคอมพลีเมนต์เลขฐานสิบ มี 2 วิธี คือ 9’s complement และ 10’s complement
การคอมพลีเมนต์เลขฐานสอง มี 2 วิธี คือ 1’s complement และ 2’s complement
การคอมพลีเมนต์เลขฐานสิบ มี 2 วิธี คือ 7’s complement และ 8’s complement
การคอมพลีเมนต์เลขฐานสิบ มี 2 วิธี คือ 15’s complement และ 16’s complement
ตารางแสดงจำนวนคอมพลีเมนต์ของเลขฐานต่างๆ
เลขฐานสิบ | เลขฐานแปด | เลขฐานสิบหก | เลขฐานสอง | ||||
ฐานสิบ | 9’s com | ฐานแปด | 7’s com | ฐานสิบหก | 15’s com | ฐานสอง | 1’s com |
0 | 9-0= 9 | 0 | 7 | 0 | F | 0 | 1 |
1 | 9-1= 8 | 1 | 6 | 1 | E | 1 | 0 |
2 | 9-2= 7 | 2 | 5 | 2 | D | ||
3 | 9-3= 6 | 3 | 4 | 3 | C | - | |
4 | 9-4= 5 | 4 | 3 | 4 | B | - | - |
5 | 9-5= 4 | 5 | 2 | 5 | A | - | |
6 | 9-6= 3 | 6 | 1 | 6 | 9 | - | - |
7 | 9-7= 2 | 7 | 0 | 7 | 8 | - | - |
8 | 9-8= 1 | - | - | 8 | 7 | - | - |
9 | 9-9= 0 | - | 9 | 6 | - | - | |
- | A | 5 | - | - | |||
- | B | 4 | - | - | |||
- | C | 3 | - | - | |||
- | D | 2 | - | - | |||
- | E | 1 | - | - | |||
- | F | 0 | - | - |
และ 10’s complment คือ 9’s complment +1
8’s complment คือ 7’s complment +1
16’s complment คือ 15’s complment +1
2’s complment คือ 1’s complment +1
ตัวอย่างที่ 3.7 (1101)2 - (1011)2 = (……..)2 โดยใช้วิธีคอมพลีเมนต์ 1 และ 2
วิธีทำ 1101 +
1's complement ของ (1011)2 = 0100
ตัวทด 1 0001 +
นำตัวทดมาบวก 1
0010
ตอบ (0010) 2
วิธีทำ 1101 +
2's complement ของ (1011)2 = 0101 (1's complement + 1)
ตัวทดไม่พิจารณา 1 0010
ตอบ (0010) 2
ตัวอย่างที่ 3.8 (4257)8 - (0650)8 = (……..)8 โดยใช้วิธีคอมพลีเมนต์ 7 และ 8
วิธีทำ 4257 +
7's complement ของ (0650)8 = 7127
ตัวทด 1 3406
นำตัวทดมาบวก 1
3407
ตอบ (3407) 8
วิธีทำ 4257 +
8's complement ของ (0650)8 = 7130 (7's complement + 1)
ตัวทดไม่พิจารณา 1 3407
ตอบ (3407) 8
ตอบ (3407) 8
ตัวอย่างที่ 3.9 (A9D2)16- (0F57)16 = (……..)16
วิธีทำ A9D2 +
15's complement ของ (0F57)16 = F0A8
ตัวทด 1 9A7A
นำตัวทดมาบวก 1
9A7B
ตอบ (9A7B) 16
วิธีทำ A9D2 +
16's complement ของ (0F57)16 = F0A9 (15's complement + 1)
ตัวทดไม่พิจารณา 1 9A7B
ตอบ (9A7B) 16
หลักการคูณ
1. ตั้งคูณตามปกติเหมือนเลขฐานสิบ
2. ถ้าผลคูณมีค่าไม่มากกว่าเลขฐานนั้นๆ ให้ใส่ผลลัพธ์ได้เลย
3. กรณีผลคูณของคู่ใดมีค่ามากกว่าเลขฐานนั้นๆ ผลคูณที่ได้นั้นจะเป็นเลขฐานสิบ ให้เปลี่ยนเป็นเลขฐานนั้นๆ แล้วใส่ผลลัพธ์ และมีตัวทด
4. กรณีมีตัวทด ให้นำผลคูณของหลักถัดไปรวมกับตัวทดผลลัพธ์ที่ได้ แล้วจึงเริ่มทำข้อ 2 และทำไปเรื่อยๆ จนครบทุกคู่
5. นำผลคูณของตัวคูณแต่ละหลักมารวมกัน
ตัวอย่างที่ 3.10 (1101)2 x (101)2 = (……..)2
วิธีทำ 1101 x
101
1101
0000 +
1101
1000001
ตอบ (1000001) 2
ตัวอย่างที่ 3.11 (427)8x (45)8 = (……..)8
วิธีทำ 427 x
45
2563 +
2134
24123
ตอบ (24123) 8
ตัวอย่างที่ 3.12 (2A9)16x (45)16 = (……..)16
วิธีทำ 2A9 x
45
D4D +
AA4 .
B78D
ตอบ (B78D) 16
หลักการหาร
1. ใช้หลักของการคูณเข้ามาช่วย โดยการเดาผลหารก่อนแล้วนำผลที่ได้มาคูณกับตัวหาร
2. นำผลคูณที่ได้จากข้อ 1 มาลบกับตัวตั้ง โดยใช้หลักการลบของเลขฐานนั้นๆ
3. ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนครบเหมือนการหารเลขฐานสิบ
ตัวอย่างที่ 3.13 (100001) 2 /(1101)2 = (……..)2
วิธีทำ 1101 )1000001(101
01101
001101
1101
0000
ตอบ (101) 2
ตัวอย่างที่ 3.11 (2134) 8 /(427)8 = (……..)8
วิธีทำ 427)24123(45
2134
2563
2563
ตอบ (45) 8
ตัวอย่างที่ 3.12 (B78D) 16 /(2A9)16 = (……..)16
วิธีทำ 2A9)B78D(45
AA4
D4D
D4D
ตอบ (45) 16
อธิบาย 1. ได้ผลลัพธ์ 4 x ตัวหาร 2A9 = AA4
- 4 x 9 = 36 = (24) 16 ใส่ 4 ทด 2
- 4 x A = 40 + 2 = 42 = (2A)16 ใส่ A ทด 2
- 4 x 2 = 8 + 2 = 10 = (A) 16 ใส่ A
2. B78 - AA4 = D4D
3 . ได้ผลลัพธ์ 5 x ตัวหาร 2A9 = D4D
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)